เขา-บีจี

วิตามินบี3 กับ นิโคตินาไมด์ เหมือนกันหรือเปล่า?

นิโคตินาไมด์เป็นที่ทราบกันดีว่ามีคุณสมบัติในการทำให้ผิวขาว ในขณะที่วิตามินบี 3 เป็นยาที่มีฤทธิ์เสริมในการทำให้ผิวขาว แล้ววิตามินบี 3 เหมือนกับนิโคตินาไมด์หรือไม่?

 

นิโคตินาไมด์ไม่เหมือนกับวิตามินบี 3 แต่เป็นอนุพันธ์ของวิตามินบี 3 และเป็นสารที่เปลี่ยนแปลงสภาพเมื่อวิตามินบี 3 เข้าสู่ร่างกาย วิตามินบี 3 หรือที่รู้จักกันในชื่อไนอาซิน จะถูกเผาผลาญในร่างกายเป็นสารออกฤทธิ์นิโคตินาไมด์หลังจากรับประทาน นิโคตินาไมด์เป็นสารประกอบอะไมด์ของไนอาซิน (วิตามินบี 3) ซึ่งจัดอยู่ในอนุพันธ์ของวิตามินบี และเป็นสารอาหารที่ร่างกายต้องการและมีประโยชน์โดยทั่วไป

วิตามินบี 3 เป็นสารสำคัญในร่างกาย และการขาดวิตามินบี 3 ก็ยังคงส่งผลกระทบอย่างมากต่อร่างกาย วิตามินบี 3 เร่งการสลายเมลานินในร่างกาย และการขาดวิตามินบี 3 อาจทำให้เกิดอาการเคลิบเคลิ้มและนอนไม่หลับได้ง่าย วิตามินบี 3 ส่งผลกระทบต่อการหายใจและการเผาผลาญของเซลล์ตามปกติ และการขาดวิตามินบี 3 อาจทำให้เกิดโรคเพลลากราได้ง่าย ดังนั้นในทางคลินิก ยาเม็ดนิโคตินาไมด์จึงถูกนำมาใช้เป็นหลักในการรักษาภาวะปากเปื่อย เพลลากรา และอาการลิ้นอักเสบที่เกิดจากการขาดวิตามินบี 3 นอกจากนี้ การขาดวิตามินบี 3 ยังส่งผลต่อความอยากอาหาร อ่อนเพลีย วิงเวียนศีรษะ อ่อนเพลีย น้ำหนักลด ปวดท้องและไม่สบายท้อง อาหารไม่ย่อย และขาดสมาธิ ขอแนะนำให้รับประทานวิตามินเสริมควบคู่ไปกับการปรับอาหารประจำวัน โดยรับประทานไข่ เนื้อสัตว์ไม่ติดมัน และผลิตภัณฑ์จากถั่วเหลืองให้มากขึ้นเพื่อโภชนาการที่สมดุล และควรรับประทานอาหารเสริมมากกว่าการใช้ยา

นิโคตินาไมด์เป็นผงผลึกสีขาว ไม่มีกลิ่นหรือแทบไม่มีกลิ่น แต่มีรสขมและละลายได้ง่ายในน้ำหรือเอทานอล นิโคตินาไมด์มักใช้ในเครื่องสำอาง เพื่อผิวขาวโดยทั่วไปมักใช้ในทางคลินิกเพื่อควบคุมโรคเพลลากรา โรคปากอักเสบ และอาการลิ้นอักเสบ นอกจากนี้ยังใช้รักษาโรคต่างๆ เช่น โรคไซนัสอักเสบ และภาวะหัวใจห้องบนอุดตัน หากร่างกายขาดนิโคตินาไมด์ อาจเสี่ยงต่อการเกิดโรคได้

โดยทั่วไปแล้วนิโคตินาไมด์สามารถรับประทานได้ในอาหาร ดังนั้นผู้ที่ร่างกายขาดนิโคตินาไมด์จึงสามารถรับประทานอาหารที่มีนิโคตินาไมด์สูง เช่น ตับสัตว์ นม ไข่ และผักสด หรืออาจใช้ยาที่มีนิโคตินาไมด์ภายใต้การดูแลของแพทย์ และสามารถใช้วิตามินบี 3 แทนได้หากจำเป็น เนื่องจากนิโคตินาไมด์เป็นอนุพันธ์ของกรดนิโคตินิก จึงมักใช้วิตามินบี 3 แทนนิโคตินาไมด์ได้

 

 


เวลาโพสต์: 28 พ.ย. 2565